จัดบ้านให้น่าอยู่ด้วยโต๊ะเก้าอี้ที่ไม่เข้าชุด

เวลาที่เพื่อนๆคิดจะจัดบ้านให้น่าอยู่แล้วไปเจอเก้าอี้เหมาะๆแต่ไม่มีโต๊ะคู่กันนี่ อย่าตัดใจนะครับ ไหนๆเจอแล้วก็เอามาทำเป็นเก้าอี้วางกับโต๊ะทานข้าวของเราได้ ถึงจะไม่เข้าคู่กันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ โต๊ะกับเก้าอี้นี่ไม่จำเป็นที่ต้องมาเป็นชุดนี่ครับ ขอแค่ให้ขนาดกับสไตล์เข้ากันได้ก็พอแล้ว ลองมาดูกันดีกว่าครับว่าถ้าจะเลือกเก้าอี้มาวางใช้ประกอบกับโต๊ะทานข้าวของเรานี่ เราควรจะดูอะไรกันบ้าง

เลือกมิติความกว้าง-ยาว-สูง ของเก้าอี้ที่พอเหมาะกับโต๊ะ

ขนาด อันนี้เป็นเรื่องแรกเลย ถ้าจะจัดบ้านให้น่าอยู่นี่ ขนาดของโต๊ะกับเก้าอี้ที่เราใช้ควรจะสมดุลกันครับ เพื่อที่เราจะได้รู้สึกสบายเวลาใช้ ถ้าเราลองวัดโต๊ะทานข้าวนื่โดยทั่วๆไปก็จะมีความสูงจากพื้นประมาณ 28 ถึง 31 นิ้ว หรือประมาณ 70-80 ซม.นั่นแหละ ส่วนเก้าอี้นี่ จากส่วนที่เราใช้นั่งถึงพื้นก็ควรจะสูงประมาณ  17 ถึง 20 นิ้ว คือประมาณ 40-50 ซม. ส่วนระยะห่างระหว่างโต๊ะกับเก้าอี้ เอาที่เรานั่งได้สบายๆก็ควรจะเป็นระยะประมาณ 8 ถึง 14 นิ้ว (20-35 ซม.) ครับ

ความสูงของเก้าอี้ เวลาเราจะหาความสูงของเก้าอี้ที่เหมาะกับโต๊ะนี่ บางทีอาจจะต้องทดลองกันหน่อย ลองเดินๆดูตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ จะมือหนึ่งมือสองก็ได้ ทางที่ดีก็พกสายวัดตลับเมตรไปด้วยนะ จะได้วัดระยะเก้าอี้ได้ถูก ตรงนี้มีข้อแนะนำนิดนึง ถ้าจะจัดบ้านให้น่าอยู่จริงๆ เวลาวัดระยะห่างระหว่างโต๊ะกับเก้าอี้ อย่าวัดจากด้านบนหรือผิวหน้าของโต๊ะครับ ให้วัดจากขอบด้านล่างของหน้าโต๊ะ อันนี้ในกรณีที่ไม่มีผ้าคลุมปูนะ แต่ถ้ามีผ้าคลุมโต๊ะปู แบบนี้ก็วัดจากขอบล่างของผ้าคลุมนั่นอีกที เวลานั่งที่เราต้องยื่นขาเข้าไปใต้โต๊ะจะได้สะดวกๆหน่อย แล้วก็อย่าลืมคำนวณเรื่องเวลานั่ง อย่างเก้าอี้ไม้แข็งๆนี่ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเป็นเก้าอี้แบบบุนวมปูนุ่มๆ เวลานั่งมันจะจมลงไปไงครับ แปลว่าความสูงที่เรากะไว้พอดีเป๊ะจะกลายเป็นต่ำลงละ เผื่อตรงนี้ไว้ด้วยนะ

สำหรับเก้าอี้ที่มีเท้าแขน อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเก็บเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะ

ความกว้างและความลึก เรื่องของขนาดนี่ไม่ได้มีเฉพาะความสูงนะครับ ถ้าเราต้องการเก้าอี้ที่นั่งแล้วสบายจริงๆก็ต้องนึกถึงเรื่องของความกว้างและความลึกของตัวเก้าอี้ที่จะเอามาใช้ด้วย เก้าอี้ที่ดีต้องเก็บเข้าใต้โต๊ะเวลาไม่ใช้ได้ง่ายๆโดยไม่ต้องชนกับขาโต๊ะเวลาจะเก็บ ไม่ว่าเราจะใช้โต๊ะกินข้าวรูปทรงไหนก็ตาม จะกลมเหลี่ยมรูปไข่เรื่องนี้เหมือนกันหมด หรือถ้าเพื่อนๆจะใช้เก้าอี้สองตัวขึ้นไปจัดวางในด้านเดียวกันของโต๊ะ อันนี้ก็เหมือนกันคือจะต้องแน่ใจว่าเวลาเก็บนี่จะไม่กระทบจนขัดกันและทำให้เก็บได้ลำบาก ทางที่ดีให้เว้นระยะห่างอย่างน้อยที่สุดสัก 2  นิ้วระหว่างเก้าอี้พวกนี้ครับ

เท้าแขวนและพนักพิง คล้ายๆข้อข้างบน คือถ้าเพื่อนๆจะจัดบ้านให้น่าอยู่น่าพักโดยเลือกใช้เก้าอี้แบบที่มีส่วนของเท้าแขนมาเข้าคู่กับโต๊ะ อันนี้ก็ควรระวังว่าเวลาเก็บเข้าไปข้างใต้โต๊ะ เท้าแขนนั่นจะต้องไม่ติดกับโต๊ะ หรือแม้แต่ผ้าปูโต๊ะ แล้วนอกจากนี้ก็ดูให้แน่ใจว่าเก้าอี้แบบนี้นี่จะทำให้คนที่ทานอาหารทานได้สะดวก คือไม่ติดขัดกับส่วนของเท้าแขวนเวลาจะยื่นมือไปไหนมาไหนนั่นแหละ ส่วนเรื่องของพนักนี่ ดูให้แน่ใจว่าส่วนสูงของพนักจะต้องสูงกว่าหน้าโต๊ะครับ ไม่งั้นมันดูแปลกๆนะ เอาเป็นว่าอย่างน้อยส่วนบนสุดของพนักเก้าอี้นี่ควรจะเป็นระดับ 2 นิ้วขึ้นไป หรือถ้าสูงกว่า 2 นิ้วนี่ก็ยิ่งดี แบบนี้แหละ

เลือกเก้าอี้และโตีะที่มีความต่อเนื่องกันถึงแม้จะเป็นคนละชุด

สไตล์ นอกจากเรื่องของมิติด้านความกว้างความสูงของเก้าอี้ เรื่องของสไตล์ก็สำคัญกับการจัดบ้านให้น่าอยู่เยอะเหมือนกันครับ เก้าอี้กับโต๊ะกินข้าวของเราจะไม่เข้าคู่กันก็ได้ แต่ทางที่ดีพยายามเลือกให้อยู่ในสไตล์เดียวกัน จะได้ดูไม่ขัดกันมาก สไตล์นี่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่อาจจะเป็นเฉพาะส่วน เช่นมีส่วนขาของเก้าอี้ที่ทำขึ้นโดยมีสไตล์เดียวกับสไตล์ของโต๊ะ หรือถ้าไม่ใช่สไตล์ก็ต้องมีอะไรที่เชื่อมโยงกันให้ดูมีความต่อเนื่อง อย่างสี คือเป็นสีเดียวกัน หรือเป็นกลุ่มสีเดียวกัน เฉดเดียวกันโทนเดียวกัน อะไรก็ตาม ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่มีจริงๆ แนะนำว่าใช้ผ้าบุหรือปูคลุมก็ได้ครับ เอาให้ผ้าพวกนี้สัมพันธ์กันกับผ้าปูโต๊ะ อย่างเป็นลายดอกเหมือนๆกันก็ยังดี

============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆจาก http://www.toftiaxa.gr/, http://www.livspace.com/ และ https://thedecorologist.com/ ครับ

ปลากระดาษ สิ่งประดิษฐ์จากแกนกระดาษชําระ

ปลากระดาษ สิ่งประดิษฐ์จากแกนกระดาษชําระ 1

ลองเอาแกนกระดาษมาทำเป็นสิ่งประดิษฐ์จากแกนกระดาษชําระให้เด็กๆดีกว่าครับ ทำเป็นรูปปลาไง ง่ายๆเหมือนเคยแหละ จะให้เด็กๆเขาทำเองก็ยังได้ เพียงแต่เราคอยประกบดูอยู่ห่างๆเท่านั้นเอง ของที่ต้องใช้ก็รอบตัวนี่แหละ ลองดูกันเลยนะครับ

อุปกรณ์

• แกนกระดาษชำระ
• สี สำหรับทา สีไม้เมจิคสีเทียนสีน้ำโปสเตอร์อะไรก็ได้ครับ
• กรรไกร
• ลูกตา อันนี้มีก็ได้ไม่มีก็ได้นะครับ ไม่มีก็ทาสีเอาก็ได้ อ้อ...ถ้ามี อย่าลืมกาวด้วยนะ

หมดแล้ว อุปกรณ์น้อยดีจริง มาลงมือกันเลยครับ

ปลากระดาษ สิ่งประดิษฐ์จากแกนกระดาษชําระ 2

- ทาสีพื้นลงไปบนแกนก่อน ทิ้งให้แห้ง จากนั้นพับแกนกระดาษชำระให้แบนๆเหมือนในรูป ไม่ต้องแบบชนิดแต๋นะครับ เอาแค่นิดหน่อยก็พอ

- ใช้กรรไกรตัดแกนที่แบนๆนั่น ให้ปลายด้านหนึ่งมนๆ ตัดประมาณ 45 องศาน่ะครับ ตรงนี้จะเป็นหัวปลา ส่วนปลายอีกด้านก็ตัดให้เป็นวงโค้งๆเข้าไปทั้งสองฝั่ง 45 องศาเหมือนกัน อันนี้จะเป็นหาง

- ส่วนปลายโค้งๆที่ตัดตะกี้ ลองพับดูครับ พับไปด้านนึงทีนึง พับอีกด้านมาอีกที อันนี้เราจะให้แกนอ่อนๆตัวหน่อยน่ะ

- พออ่อนๆตัวนิดๆ คราวนี้พับส่วนนี้เข้าข้างในครับ เหมือนในรูปนะ แบบนี้เราก็ได้หางปลาแล้ว

- เรียบร้อยแล้วก็เหลือแค่ทาสี ตกแต่ง ระบายเป็นเกล็ด ถ้ามีลูกตาจะติดก็ทาสี รอให้แห้ง แล้วติดได้เลยครับ

ปลากระดาษ สิ่งประดิษฐ์จากแกนกระดาษชําระ 3

เสร็จแล้วครับ ง่ายเนาะ จากตรงนี้เราเอาไปประดิดประดอยเพิ่มได้นะ อย่างเอามาเจาะรูด้านหลัง ทำเป็นโมไบล์สวยๆไว้แขวนตกแต่งห้องเด็กๆก็ได้อีก ลองดูกันได้เลยครับ :)

============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆไอเดียดีๆจาก https://www.thecrafttrain.com/ ครับ

9 ข้อง่ายๆสำหรับการตกแต่งออฟฟิศขนาดเล็ก

ออฟฟิศสมัยใหม่ๆนี่นอกจากจะเป็นที่ทำงานแล้ว เขายังถือว่าสมควรจะเป็นที่ที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานที่ปฎิบัติงานด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้การจัดตกแต่งออฟฟิศขนาดเล็กเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยสร้างบรรยากาศจึงเป็นเรื่องสำคัญเลยแหละ แต่ทีนี้ถ้าถามว่าเราจะจัดแต่งยังไง? เริ่มต้นจากลอยๆแบบนี้ก็คงนึกภาพยาก งั้นเราลองมาดูกันดีกว่าครับว่าสำหรับเรื่องของการตกแต่งออฟฟิศขนาดเล็กๆนี่ พวกมืออาชีพเขามีคำแนะนำกันว่ายังไงบ้างนะครับ

อย่าลืมเรื่องแสงสว่างภายในออฟฟิศ ควรจะมีในระดับที่เหมาะสมต่อการทำงาน

1. ผสมส่วนเปิดและส่วนปิดในบริเวณทำงาน คือให้บริเวณที่พนักงานทำงานมีทั้งส่วนที่เปิดสำหรับพูดคุยติดต่องานและส่วนปิดเช่น Cubicle ให้พนักงานได้ทำงานเงียบๆในพื้นที่ส่วนตัวนั่นแหละครับ ตามสถิติที่เขาศึกษานี่ เขาพบว่าคนเราเสียเวลาถึง 86 นาทีต่อวันไปกับเสียงดังรบกวนเลยนะ ดั้งนั้นก็แบ่งแยกพื้นที่เสียหน่อยจะดีกว่าครับ ตรงนี้เราอาจจะทำแบบง่ายๆด้วยการใช้เก้าอี้หรือโต๊ะมาตั้งกั้นแยกส่วนออกจากกันก็ได้ ส่วนขนาดของห้องนี่เขาบอกว่าห้องปิดนึงควรมีพนักงานสักไม่เกิน 12 คน กำลังดีครับ ถ้ามากกว่านั้นก็แยกห้องใหม่ขึ้นมาอีกห้องเลยดีกว่า

2. ใช้แสงที่เหมาะสม ถ้าออฟฟิศของเพื่อนๆได้รับแสงจากธรรมชาติก็จะดีที่สุดเลยครับ เหมาะกับการกระตุ้นการทำงานและเวลานอน (งานวิจัยพบว่าคนที่นั่งทำงานใกล้หน้าต่าง เวลานอนจะมีการพักผ่อนมากกว่าคนทั่วไปเฉลี่ย 46 นาทีครับ) ดังนั้น ถ้าห้องออฟฟิศนี่มีหน้าต่างก็จะดีเลย เพราะหน้าต่างจะให้แสงจากธรรมชาติได้สว่างเป็น 137% ของแสงจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้า อย่างพวกหลอดไฟ ไฟเพดานอะไรพวกนี้

3. เลือกใช้สีตกแต่งออฟฟิศที่เหมาะสม สีนี่มีส่วนช่วยให้พนักงานในออฟฟิศคิดและสร้างความรู้สึกต่างๆได้ดีเลยครับ  สีที่เหมาะๆสำหรับตกแต่งสำนักงานก็คือสีฟ้า และสีเขียว สีฟ้านี่จะทำให้คนที่อยู่ภายในห้องรู้สึกสงบและมั่นคง ผู้ชายส่วนมากก็ชอบสีฟ้า (จากการวิจัย 57% ของผู้ชายชอบสีนี้ ส่วนผู้หญิงมีจำนวน 35%ครับ) แต่ก็ต้องระวังไม่ให้มีสีนี้มากเกินไป เพราะถ้าเป็นแบบหลังนี่ อาจจะสร้างความรู้สึกซึมเศร้าขึ้นมาได้ หรือสีเขียวก็ช่วยให้ความรู้สึกถึงความเจริญเติบโตและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความคิดสร้างสรรค์ ส่วนสีที่ควรหลีกเลี่ยงในการเอามาตกแต่งออฟฟิศขนาดเล็กๆนี่ก็คือสีน้ำตาลครับ เพราะสีนี้จะทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายมากเกินไปจนบางครั้งเลยเถิดไปถึงหยุดนิ่งเอาเลย

เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับสภาพภายในออฟฟิศ

4. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับออฟฟิศ ออฟฟิศที่ดีนี่ก็ต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วย อย่างเฟอร์นิเจอร์นี่แหละ เขาลองทดสบดูและพบว่าพนักงานจะทำงานได้ดีขึ้นถึง 17% เลยแหละครับถ้าได้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมมาประกอบกับการทำงาน แล้วไอ้เจ้าเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมนี่ยังช่วยลดเรื่องอขงการเจ็บป่วยจากการทำงาน อย่างพวก Office syndrome ทั้งหลายได้ดีด้วยนะ

5.  ควบคุมอุณหภูมิในออฟฟิศ อุณหภูมินี่มีผลกับการทำงานของคนเรามากเลยแหละ ร้อนไปก็ไม่อยากทำงาน หนาวไปก็ไม่ชอบ พลอยแต่จะนอน ใช่มั้ยครับ? อุณหภูมิที่เหมาะกับการทำงานนี่เขาบอกว่าจะตกประมาณ 25 องศาเซลเซียสครับ ก็เท่าๆกับระดับที่เราเปิดแอร์ทั่วๆไป อุณหภูมิขนาดนี้จะทำให้คนเราทำงานผิดพลาดน้อยและมีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าอุณหภูมิตกลงไปถึง 20 องศา อันนี้เขาพบว่าพนักงานจะทำงานผิดพลาดมากขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์เลยแหละ

6. อาหาร ออฟฟิศนี่ควรจะมีอะไรเล็กๆน้อยๆไว้ให้พนักงานได้ทานครับ เพราะคนเรานี่ถ้าอิ่มพอดีๆสมองจะแล่นตามไปด้วย อาจจะเป็นอะไรง่ายๆอย่างกล้วย ถั่ว ผลไม้ โยเกิร์ต อะไรพวกนี้ก็ได้ครับ อย่าให้ไปถึงขนาดผัดกะเพราก๋วยเตี๋ยวไก่อะไรเลย อันนั้นจะมากไปหน่อย พลอยจะหลับอย่างเดียวเนื่องจากหนังท้องตึงเอา

อย่าลืมตกแต่งออฟฟิศด้วยของอื่นๆที่มีผลต่ออารมณ์ เช่นต้นไม้และกลิ่น

7. ต้นไม้ ธรรมชาตินี่ทำให้คนเราสดชื่นสบายใจนะ ดังนั้นก็ลองดึงมาทำการตกแต่งออฟฟิศขนาดเล็กๆของเราครับ เอาให้มีต้นไม้เล็กๆน้อยๆตามจุดต่างๆเสียหน่อย จะเป็นแคคตัสกระถางเล็กๆก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ต้นไม้พวกนี้เขาพบว่าช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 12 % แน่ะ

8. กำจัดของไม่จำเป็น สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เรียบร้อยช่วยเพิ่มความสามารถในการเพิ่งสมาธิของพนักงานได้ดีครับ ดังนั้นหมั่นเก็บกวาดอะไรให้เรียบร้อยด้วย ของไหนที่ไม่ใช้ก็เก็บๆซะ หรือของไหนที่ใช้แล้วก็เก็บให้เข้าที่ เวลาหาจะได้หาง่ายๆ ไม่เสียเวลาไปเปล่าๆ ไอ้เวลาที่เสียนี่ ต้นทุนในการทำงานทั้งนั้นแหละครับ

9. กลิ่น เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเลย แต่มันจริงนะ กลิ่นหอมๆทำให้คนเราสดชื่น และมีแรงกระตุ้นในการทำงานได้ดี ลองเลือกหาเทียนหอม หรือสเปรย์ ธูปหอม อะไรพวกนี้มาจุดในห้องทำงานครับ กลิ่นที่เหมาะๆก็พวกกลิ่นมะนาว อันนี้ช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน กลิ่นลาเวนเดอร์ อันนี้จะช่วยเรื่องควบคุมอารมณ์ให้สมดุล แล้วก็กลิ่นมินต์หอมๆ อันหลังนี่จะช่วยกระตุ้นกระบวนการคิด จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นกลิ่นประจำห้องรับรองแขกด้วยครับ

============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆจากhttp://www.homedit.com/, http://www.designrulz.com/ และ http://ko-te.com/ ครับ

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 1

มาประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้านกันดีกว่าครับ หนนี้ต้องอาศัยฝีมือช่างนิดนึง แต่เราทำได้อยู่แล้วล่ะ เหมาะเลยสำหรับใครที่ต้องการแต่งบ้านให้ออกแนวสไตล์ Industrial ลืมบอกไปเลยว่าเป็นชั้นวางของทําเองจากท่อเหล็กน่ะ อุปกรณ์ก็หาได้จากพวกร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละครับ

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 2

อุปกรณ์

• ชุดท่อน้ำ เหมือนในรูปนี่แหละ ขนาดตามแต่เรานะ แต่ถ้าเป็นตัวอย่างเขาใช้ขนาดความยาวท่อ 6 3/4 นิ้วครับชั้นวางอันนึงก็ใช้ท่อ 2 ท่อนะ
• ตะปูเกลียว ถ้ามีพุกไว้ติดกับผนังด้วยก็ยิ่งดี
• ไม้ ขนาดความกว้างเท่ากับท่อที่เราใช้ หนาตามแต่เรา แต่ถ้าตัวอย่างนี่เขาใช้ขนาด 2x6x1/2 นิ้วครับอ้อ เกือบลืม ไม้นี่เราจะเอามาทำเป็นชั้น แต่เราจะไมได้ยึดไม้เข้ากับตัวท่อ ดังนั้นเผื่อให้ความยาวของไม้มากกว่าความยาวของชั้นที่เราต้องการด้วยนะ เผื่อไม้ขยับนิดๆหน่อยๆจะได้ไม่ร่วงลงมาจากท่อ
• สีดำ ไว้พ่นท่อไง
• ตลับเมตร
• ไม้วัดระดับ
• ไขควง สว่าน ดินสอ

หมดแล้วครับ มาเริ่มเลย

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 3

อย่างแรกเลย ประกอบชุดท่อเข้าด้วยกันครับ 

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 4

เอาท่อมาพ่นสีดำ ทิ้งให้แห้ง

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 5

ลองกะว่าเราจะทำชั้นตรงไหน จากนั้นติดท่อที่แห้งแล้วเข้ากับผนัง ให้ได้ระดับนะครับ ตรงนี้เราอาจจะติดอันแรกก่อน จากนั้นใช้ไม้วัดระดับลองวัด ทำเครื่องหมายด้วยดินสอ แล้วค่อยเอาอันที่สองมาลองทาบ เช็คด้วยไม้วัดระดับอีกที จากนั้นค่อยตอกหรือยึดชุดท่อที่สองก็ได้ครับ

ชั้นวางของทําเอง งานประดิษฐ์ของใช้ง่ายๆสำหรับแต่งบ้าน 6

ที่เหลือก็แค่เอาไม้มาวางลงไปด้านบน เท่านี้ก็เสร็จ

ขั้นตอนไม่ยากนะ แต่ต้องรอบคอบหน่อยเหมือนงานช่างทั่วๆไป ไม่งั้นติดไม่ได้ระดับล่ะแย่เลย เวลาวางของก็ระวังนิดนะครับ เพราะไม้นี่เราวางลงไปบนท่อเฉยๆ ไม่มีอะไรยึด แปลว่ามันจะเลื่อนไปมาได้ ถ้าวางไม่ดีไม้มันก็ร่วงจากท่อที่เป็นฐานน่ะครับ

==============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

==============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆไอเดียดีๆจาก http://www.houseofhawthornes.com/ ครับ

การจัดตกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

เรื่องของการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนี่จะว่าเป็นตามหลักวิทยาศาสตร์ก็มีส่วนนะครับ คือไอ้ที่เขาแนะๆนี่ บางอย่างมันก็มีเหตุและผลของมัน เช่น อย่าวางเตียงใต้ขื่อ อันนี้ลองมานึกดีๆก็ได้คำตอบง่ายๆ คือ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวหรือมีปัญหาอะไร ขื่อรับน้ำหนักไม่ไหว ไอ้จุดแรกที่มันจะร่วงก็ลงมาเตียงนั่นแหละ ถ้าเตียงเปล่าๆก็แล้วไป แต่ถ้าเตียงทีมีเรานอนอยู่บนเตียงนี่คงไม่น่าดูเท่าไรแน่ งั้นวันนี้เราลองมาดูหลักกว้างๆของคำแนะนำในการแต่งบ้านตามฮวงจุ้ยกันนะครับ เอาแบบกว้างๆนะ พอที่เราทำได้เองสบายๆ ถ้าจะเอาแบบละเอียดๆนี่ต้องติดต่อซินแสแล้วล่ะ ไล่เป็นห้องๆไปเลยนะ

ตกแต่งห้องครัวโดยเน้นถึงความสัมพันธ์และความอบอุ่นในครอบครัว

ห้องครัว

ห้องนี้ต้องการความอบอุ่นและการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างบุคลครับ งั้นก็ควรทาสีเหลือง ดูอบอุ่นและสื่อถึงมิตรภาพได้ดี ตามหลักนี่ห้องครัวจะเป็นห้องที่สำคัญมากที่สุดในบ้าน เพราะเป็นห้องที่ควบคุมเรื่องของความอุดมสมบูรณ์และความสุขของคนในครอบครัว ดังนั้นถ้าว่ากันตามหลักในการตกแต่งบ้านตามฮวงจุ้ยแล้วล่ะก็ ของตกแต่งภายในห้องนี้ก็ควรจะมีส่วนช่วยเสริมพลังงานด้านบวก อย่างพวกแหล่งกำเนิดแสง โคมไฟอะไรแบบนี้แหละครับ ส่วนบนเคาท์เตอร์ที่เราเตรียมอาหารนี่พยายามกำจัดของที่ไม่จำเป็นออกไปนะ จะได้ไม่รกรุงรัง เลือกวางเฉพาะของที่จำเป็นในการทำครัวและประกอบอาหารจริงๆครับ แล้วก็ลองปลูกต้นไม้พวกสวนครัวก็ได้ และอย่าลืมให้ห้องครัวของเราได้รับแสงแดดด้วยนะ

เลือกใช้สีที่ช่วยให้เกิดอารมณ์สงบและผ่อนคลายสำหรับห้องนอน

ห้องนอน

เป็นห้องของการพักผ่อนและความเป็นส่วนตัว รวมถึงอารมณ์ครับ ใต้เตียงนี่หมั่นเก็บอย่าให้มีของวางสุมหรือสกปรกนะ ทางฮวงจุ้ยเขาบอกว่าจะกั้นพลังงาน ถ้ามองในแง่วิทยาศาสตร์ก็คือถ้ามันรกก็มีโอกาสที่จะมีแขกไม่ได้รับเชิญ ทั้งหนูแมงสาบไปจนถึงงูเข้ามาได้ง่ายๆ สีที่ใช้ก็ควรเป็นสีที่ทำให้ดูสงบ เช่นสีเขียว หรือสีน้ำตาลอ่อนๆ อย่าลืมวางเตียงให้ห่างจากแนวตรงจากประตูนะครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ลองหาโต๊ะหัวเตียงเล็กๆมาวางประกบสองข้าง ของชิ้นไหนที่ไม่จำเป็นกับการพักผ่อนเช่นทีวี คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เอาไปไว้ที่ห้องอื่นครับ ส่วนของตกแต่งพวกภาพก็เลือกที่ดูดีๆ ให้ดีก็เป็นภาพที่เราต้องการอยากจะมีอยากจะเป็นอยากจะไปน่ะครับ

หมั่นดูและและเก็บของในห้องนั่งเล่นให้เป็นระเบียบเวลาเลิกใช้งาน

ห้องนั่งเล่น

ห้องนี้ต้องการความสบายใจและความใกล้ชิดครับ งั้นถ้าเราจะตกแต่งห้องนี้ตามหลักฮวงจุ้ยก็ลองมาเริ่มด้วยสีก่อนเลย เอาสีกลางๆที่ให้ความรู้สึกสบายๆครับ อย่างพวกกลุ่มสีกลางหรือ Neutral พวกขาว เทา อะไรแบบนี้ ถ้าต้องการให้มีกิจกรรมเยอะๆคึกคักก็ใช้สีที่ดูกระตุ้นการเคลื่อนไหว อย่างสีแดง สีส้ม แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ส่วนเฟอร์นิเจอร์นี่ก็จัดวางให้แน่นหนาแข็งแรง ไม่โยกง่ายๆ เก้าอี้ลองเอาไปไว้แถวๆหน้าต่างนะครับ แล้วถ้าตามหลักฮวงจุ้ย ห้องนี้ก็ไม่ควรจะอยู่สูงกว่าห้องหรือพื้นที่ที่เราใช้รับประทานอาหาร ขนาดก็ควรจะกลางๆพอดีๆไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป รูปทรงก็ควรจะเป็นสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ ตกแต่งด้วยอะไรที่ให้ความรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวา อย่างพวกต้นไม้ ไม้ดอก กระจก ท้ายที่สุดก็คือพยายามอย่าให้รกครับ ตรงนี้อาจจะใช้ตู้หรือจ้างช่างทำพวก Built-in ไว้เก็บของให้เรียบร้อยเวลาไม่ใช้แล้วก็ได้

เลือกใช้วัสดุที่หลากหลายในการตกแต่งห้องครัว

ห้องรับประทานอาหาร

ห้องนี้เกี่ยวกับร่างกายของเราและความสัมพันธ์ในครอบครัว ตามฮวงจุ้ยแล้วโต๊ะทานข้าวตามหลักควรจะเป็นรูปกลม รูปไข่ หรือแปดเหลี่ยมโดยจัดวางที่กึ่งกลางห้อง ส่วนสีที่ใช้ในห้องก็ควรเป็นสีฟ้าหรือสีครีมครับ ถ้าเป็นไปได้ก็มีสองประตู จะได้ทำให้พลังงานไหลไปมาผ่านห้องนี้ได้สะดวก แล้วก็เน้นหน่อยเรื่องการใช้วัสดุที่พื้นผิวต่างๆกันมาตกแต่ง ให้มีทั้งหยาบๆ เรียบ เป็นมัน โดยผ่านทางผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าม่าน และของตกแต่งอื่นๆ แล้วถ้ามีโคมไฟแก้วเหนือหัวที่ให้แสงอ่อนๆได้ก็ดีครับ จะได้ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร อย่าลืมแขวนรูปภาพพวกทิวทัศน์หรืองานศิลปะสวยๆและกระจกในห้องนี้ด้วยนะ

ให้ทางเดินเข้าบ้านสามารถเดินได้สะดวกโดยไม่มีอะไรกีดขวาง

ทางเข้า

หลักฮวงจุ้ยเขามองว่าจุดนี้เป็นจุดที่แสดงพลังชีวิตและความมั่งคั่งครับ สีที่ใช้ก็ควรเป็นสีขาวโดยเน้นด้วยสีอื่นที่ดูคึกคักอย่างสีแดงแซมเข้าไปเพื่อให้ดูมีพลัง แล้วก็ควรจะมีอะไรที่ดูให้น้ำหนักกับพื้นที่ อย่างพรมสีสดๆ หรือโต๊ะวางแนบแนวผนังสวยๆ แต่อย่าให้เกะกะทางเดินและพลังงานบวกที่ไหลเข้ามาตามทางเดิน อย่าลืมติดแหล่งกำเนิดแสงตรงทางเข้าด้วยนะครับ ประตูหน้าของบ้านนี่ก็ควรจะมีขนาดใหญ่และกว้างที่สุดในบรรดาประตูทั้งหมดของบ้านไม่ว่าจะเป็นประตูตรงจุดไหนด้วยครับ

============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆจาก http://www.lushome.com/, https://www.realsimple.com/, http://lezagavin.com/ และ http://southernhospitalityblog.com/ ครับ