จะว่าไปไอ้เรื่องการแต่งห้องนอนเล็กๆให้น่าอยู่นี่ไม่ง่ายนักนะ เพราะวัยรุ่นนี่เปลี่ยนแปลงง่ายครับ อะไรที่เขาชอบอยู่ในอาทิตย์นี้
กรี๊ดกร๊าดกับมันอยู่ดีๆ พออาทิตย์หน้าเขาอาจจะเบื่อแล้วก็ได้ แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปอีกเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนอยู่ในวัยรุ่น หรืออาจจะมีลูกที่อยู่ในวัยนี้แล้วกำลังวางแผนจะตกแต่งจะทำห้องให้กับเขาล่ะก็
พยายามทำให้ห้องนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายๆด้วยนะ
โดยทั่วๆไปก็ยึดหลักพื้นๆไว้น่ะครับ อย่างผนังก็ควรจะให้ออกสีกลางๆ
อ่อนๆอย่างสีขาวได้ก็ยิ่งดี ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็เอาแบบง่ายๆให้เข้ากัน
จะเป็นสไตล์ไหนก็ได้ ส่วนของตกแต่งห้องก็เอาแบบที่ไม่ต้องแพงมาก
เพราะรสนิยมของเด็กเปลี่ยนบ่อยและเปลี่ยนง่ายอย่างที่บอกไป
แล้วส่วนที่สำคัญมากๆเลยก็คือสำหรับเพื่อนๆที่มีลูกนี่ อย่าลืมให้ลูกๆเองมีส่วนในการช่วยคิดในการตกแต่งด้วยนะครับ
จะได้ฝึกให้เขารับผิดชอบอย่างนึงละ อีกอย่างที่สำคัญก็คือ ก็มันห้องของเขาน่ะนะ ใครจะไปรู้วิธีการแต่งห้องนอนเล็กๆให้น่าอยู่และได้บรรยากาศสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนที่อยู่ได้ดีเกินไปกว่าตัวเจ้าของห้องเองล่ะครับ
|
ห้องนอนสไตล์ย้อนยุคหวานๆที่ดูเหมาะสำหรับเด็กผู้หญิง |
สไตล์คลาสสิคแบบย้อนยุค ย้อนยุคที่ว่าก็แถวๆยุควิคตอเรียนน่ะครับ อันนี้จะเหมาะกับเด็กผู้หญิง
โดยเฉพาะที่ชอบอะไรแนวๆหวานๆหน่อย
ถ้าแบบนี้ก็ควรแต่งห้องแบบที่ไทยๆเราเรียกวินเทจหรือ Shabby Chic เลย ถ้าจะแต่งแบบนี้ ลองหาวอลเปเปอร์ลายดอกไม้สวยๆที่ดูโบราณแบบย้อนยุคหน่อยมาติดที่ผนัง
อย่างน้อยไม่ติดทั้งห้องก็เอาสักด้านนึงก็ได้ ส่วนด้านที่เหลือก็ทาด้วยสีขาว
หรือสีชมพูอ่อนๆแล้วเดินขอบด้วยสีขาวให้ดูไม่น่าเบื่อ เตียงและหน้าต่างก็แต่งด้วยผ้าที่ดูพริ้วๆหวานๆหน่อย
ยิ่งถ้ามีลวดลายพวกดอกไม้ดอกกุหลาบอะไรพวกนี้ตามหมอนตามผ้าปูเตียงได้ก็จะยิ่งเข้ากับสไตล์ ทำให้การแต่งห้องนอนเล็กๆของเราดูน่าอยู่น่าอาศัยมากขึ้น
ส่วนพวกชั้นหนังสือโต๊ะเขียนหนังสือหรือเก้าอี้นี่
ถ้าไม่ลองซื้อไอ้ที่ทำใหม่ในสไตล์เก่าก็เอาของเก่าเลยนั่นแหละมาจ้างช่างให้ทาสีใหม่
แบบหลังนี่จะประหยัดเงินกว่าด้วย สีที่ทาก็ใช้ทาสีขาวสีพาสเทลทั้งหลายครับ โต๊ะที่จะใช้ในห้องนี้ก็ปูเสียด้วยผ้าปูโต๊ะที่มีลายดอก
จะมีลูกไม้ระบายอะไรเพิ่มเติมเข้าไปก็ยิ่งดี
ส่วนชั้นเก็บของก็ใช้ลิ้นชักของโต๊ะของตู้ตามธรรมดานั่นแหละครับไว้สำหรับเก็บพวกตุ้มหูสร้อยสารพัดของตกแต่งที่วัยรุ่นที่ชอบการแต่งบ้านสไตล์นี้เขานิยมกัน
|
เน้นความเรียบง่ายสำหรับการตกแต่งห้องนอนเล็กๆในแบบ Minimalist |
แต่งแนวโมเดิร์นแบบ Minimalist อันนี้ดูจะเหมาะกับวัยรุ่นแบบฮิปๆแนวๆหน่อย
แล้วถ้าจะว่าไปสไตล์แบบนี้ก็เหมาะกับห้องขนาดเล็กๆด้วยสิ
ถ้าอยากแต่งสไตล์แบบนี้ก็ลองหาเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างในตัวครับ
อย่างพวกเก้าอี้หรือโต๊ะที่มีที่ให้เก็บของในตัว หรือกล่องสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์ที่จะเอามาทำเป็นเก้าอี้
หรือเป็นโต๊ะเล็กๆแทนที่จะเป็นเก้าอี้ก็ได้ สำหรับเตียงนี่
เอาเตียงกว้างๆมาวางติดผนังเสีย ปูให้เรียบร้อยหน่อยแล้วหาหมอนอิงสองสามใบวางลงไป
เท่านี้เราก็ได้โซฟาแบบ Daybed ไว้เหยียดหลังนอนอ่านหนังสือง่ายๆแล้ว
พวกเตียงอะไรนี่ถ้ามีพวกลิ้นชักติดไว้ด้านล่างด้วยก็ดีนะ
จะได้ใช้เก็บของได้อีกเหมือนกัน แล้วถ้าวัยรุ่นคนไหนอยากได้ห้องแบบ Minimalist
สุดๆล่ะก็ แนะว่าให้ลองทาผนังเป็นสีขาวครับ ส่วนพวกม่าน พรม
ผ้าปูเตียงปูโต๊ะอะไรนี่ลองเลือกสีเทา สีเบจ หรือสีดำมาใช้ แล้วก็เลือกหาสีสดใสๆหน่อยอีกสักสีนึงมาใช้เป็นสีเน้น
(Accent) อันหลังนี่จะเป็นสีอะไรก็ได้นะ เพราะสีหลักคือขาวกับสีรองคือพวกเทาเบจดำอะไรพวกนี้เข้ากันได้กับทุกสีอยู่แล้ว
ส่วนข้าวของในห้องก็พยายามให้มีน้อยๆครับ
อาจจะเอาไปเก็บไว้ตามลิ้นชักอะไรพวกนี้ให้พ้นสายตาก็ได้ ตะกร้าเสื้อผ้าอะไรก็ลองหาๆพวกที่ทำจากเหล็ก
เป็นตะกร้าตะแกรงอะไรแบบนี้แหละมาใช้
นอกจากนี้ตะแกรงเหล็กนี่ก็ใช้แต่งห้องแบบนี้ได้ดีเลย หามาสักอันเอามาติดผนัง
แล้วใส่ตะขอเข้าไป ไว้เผื่อแขวนโน่นนี่ ใช้ตะขอรูปตัว S
ง่ายๆนี่แหละครับ
|
ห้องนอนเด็กที่ชอบศิลป์ ควรจะมีส่วนช่วยในเรื่องบรรยากาศที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ |
ห้องเด็กศิลป์ อันนี้หมายถึงห้องของเด็กวัยรุ่นที่ชอบพวกศิลปะหน่อยน่ะนะครับ
ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องหมายถึงห้องของเด็กนักเรียนสายศิลป์
สายวิทย์ก็แต่งห้องแนวนี้ได้สบาย ถ้าแบบนี้ก็แต่งห้องให้ออกมาในแนว Studio
ดีกว่า Studio
นี่หมายถึงห้องที่มีห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอะไรพวกนี้ไม่ได้แยกจากกันน่ะนะ
อย่างพื้นนี่ก็อาจจะใช้เป็นพื้นไม้ เดี๋ยวนี้เห็นเด็กๆหลายคนชอบเต้นพวก Cover หรือแสดงออกมากขึ้น ถ้าลูกของเพื่อนๆชอบเรื่องพวกนี้ แล้วเราก็อยากสนับสนุนเขาด้วย
งั้นก็ลองติดผนังด้านนี้เป็นกระจกไปเลยครับ เขาจะได้เอาไว้ดูตัวเองเวลาเต้นเวลาฝึกฝนอะไรพวกนี้ไป
อันนี้ทุ่มทุนหน่อย แต่ถ้าพอทำไหวก็ลองดู
เพราะสนับสนุนให้เขาแสดงออกในทางที่ดีก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมอยู่
ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ส่วนวัยรุ่นคนไหนที่ชอบไปทางพวกศิลป์อื่นๆอย่างพวกผ้า
วาดรูป ปั้นอะไรพวกนี้ ถ้าแบบนี้ก็ต้องแต่งห้องด้วยพวกชั้น ตู้เก็บของ
ไปจนถึงโต๊ะทำงานที่เหมาะกับการทำงานศิลป์
รวมไปถึงเหลือพื้นที่ว่างพอที่จะเอาไว้โชว์งานนั้นๆของตัวเขาด้วย
ส่วนผนังก็อาจจะติดกระดานอะไรที่ลบได้
ไว้เผื่อเขาเกิดไอเดียอะไรจะได้ร่างลงบนกระดานเป็นการวางแผนเสียก่อน
ส่วนวัยรุ่นคนไหนที่ชอบดนตรีก็อาจจะต้องดูเกี่ยวกับเรื่องของการเก็บเสียงในห้อง
อย่างใช้วัสดุที่ซึมซับเสียได้ดีหน่อยมาบุด้านในจะได้ไม่รบกวนคนอื่นเขา แต่ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นที่ชอบเรื่องศิลป์แบบไหนก็ตาม
เราต้องไม่ลืมที่จะทำให้ห้องนั่นสว่างๆเพื่อที่เขาจะได้ทำงานศิลป์หรือเสพงานที่เขาชอบได้นะ
แต่ก็อย่าให้สว่างเสียจนห้องดูแข็งกระด้างเกินไป
แบบนั้นจะไม่เหมาะกับการพักผ่อนเอา
ผนังของห้องแบบนี้อาจจะเลือกใช้สีน้ำเงินหรือฟ้าอ่อนๆ สีเขียวจางๆ
หรือสีชมพูพาสเทลนี่ก็ใช้ได้
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในห้องแบบนี้ก็เลือกที่เข้ากับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แต่ละจุดในห้องครับ
ที่สำคัญก็คือการแต่งห้องนอนเล็กๆให้น่าอยู่สำหรับพวกเด็กๆที่เขาชอบศิลปะนี่ จะต้องให้ของให้ห้องดูกลมกลืนและช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของตัวคนที่อยู่อาศัยด้วยนะ
|
ให้ความสำคัญกับความเงียบเพื่อตั้งสมาธิในการศึกษาสำหรับห้องนอนของเด็กเรียน |
ห้องเด็กเรียน ท้ายสุดนี่ก็ต้องเป็นห้องของน้องๆหนอนหนังสือทั้งหลาย การตกแต่งห้องนอนเล็กๆแบบนี้ให้น่าอยู่ควรจะต้องเงียบหน่อยครับ
จะได้เหมาะกับการตั้งสมาธิเรียนหรือศึกษาเรื่องอะไรได้ดี ตามผนังก็ควรจะมีชั้นหนังสือต่างๆติดหรือวางเอาไว้ในกรณีที่เป็นตู้หนังสือน่ะนะ
เฟอร์นิเจอร์ที่ห้องแบบนี้ขาดไม่ได้เลยก็ต้องเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ พยายามเลือกหาแบบที่มีลิ้นชักในตัวด้วย
ไว้เผื่อเก็บกระดาษดินสอปากกาเครื่องเขียนอะไรต่างๆได้สะดวกๆหน่อย
แล้วก็อย่าลืมโป๊ะไฟวางตั้งโต๊ะด้วย อันนี้จำเป็นเลย จะได้อ่านหนังสือได้สะดวกๆโดยไม่เสียสายตา
ส่วนของตกแต่งที่เหมาะสำหรับเอามาติดผนังก็น่าจะเป็นพวกโปสเตอร์หรือรูปของอะไรเกี่ยวกับวิชาการทั้งหลายที่น้องๆเขาชอบ
หรือเอาเป็นพวก Quote อะไรที่เป็นแรงกระตุ้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาก็ได้
สีที่ใช้ตกแต่งก็อาจจะลองเลือกสีเขียวอ่อนๆ
หรือสีเทาสีน้ำตาลด้านๆมาใช้ทาผนังและเฟอร์นิเจอร์
จะได้ไม่ดึงดูดความสนใจให้เบี่ยงเบนออกไปจากเรื่องที่น้องๆเขาศึกษาอยู่ ตู้เสื้อผ้านี่ก็ควรจะมีนะ
จะได้เอาไว้เก็บเสื้อผ้าหรืออะไรๆให้พ้นสายตา เหตุผลเหมือนเดิมแหละคือจะได้ไม่ต้องดึงดูดความสนใจให้เบี่ยงเบนไป
ตามผนังนี่อาจจะติดวัสดุอะไรที่มันช่วยกันเสียงจากภายนอกได้ก็ยิ่งดีครับ
สำคัญตรงที่ว่าทำให้ขนาดนี้แล้ว หวังว่าน้องๆที่อยู่ในห้องคงไม่เอาแต่หลับแล้วกัน :)
============================================================================
Very interesting and informative post. Thanks for posting about Industrial Interior Design. This is very useful information for me
ReplyDeleteIndustrial Interior Design