เวลาที่เราจะลงมือตกแต่งบ้านให้น่าอยู่นี่ ผ้าม่านที่ใช้ในบ้านนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญนะครับ เพราะม่านนี่จะเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มบุคลิกและความหรูหราให้กับบ้านกับห้องของเราได้ดีมากเลยแหละ แต่ก่อนที่เพื่อนๆจะไปที่ร้านขายผ้าม่านเพื่อเลือกผ้าม่านสวยๆถูกใจมาตกแต่งล่ะก็
ลองมาอ่านข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนดีกว่านะว่าเขาแนะว่าควรทำและไม่ควรทำอะไรบ้างในการซื้อม่าน
จะได้ไม่เสียเงินซื้อมาเปล่าๆแต่เข้ากับบ้านไม่ได้ไงครับ
 |
| เลือกผ้าม่านที่มีขนาดพอเหมาะ ทั้งความกว้างและความสูง |
1. สีกับลวดลายของผ้าม่าน
โอกาสที่คนที่อยู่ในห้องใดห้องหนึ่งแล้วหันไปเจอผ้าม่านนี่มีมากเลยนะ อีกอย่าง ผ้าม่านนี่ก็เป็นของตกแต่งที่มีสัดส่วนที่จัดว่าเยอะเลยแหละในห้องห้องหนึ่ง เพราะแบบนี้แหละเลยทำให้ลักษณะของม่านนี่จะมีผลมากๆกับการตกแต่งภายในห้อง
แล้วก็เพราะจากเหตุผลพวกนี้แหละครับที่ทำให้เวลาที่เราจะตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ด้วยผ้าม่านสวยๆก็ต้องคิดกันให้เยอะๆหน่อยก่อนซื้อ
ไม่ใช่ว่าสักแต่ซื้อๆมาเท่านั้น
2. อย่าประหยัดขนาด ผ้าม่านนี่ต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับหน้าต่างครับ
อย่างความกว้างของม่านนี่ก็ควรจะยาวกว่าตัวหน้าต่างพอควรครับ ไม่ใช่พอดีเป๊ะๆเลย
อันนี้เป็นหลักที่ยึดเลยนะ
ต่อให้เป็นหน้าต่างที่เราคิดว่าจะเปิดม่านเป็นส่วนมากก็ต้องทำแบบนี้
นอกจากนี้ก็ต้องยาวมากพอด้วย
อย่างบ้านไหนที่ต้องการสไตล์การตกแต่งแบบดูหรูๆหน่อยอันนี้ก็ต้องให้ม่านยาวๆให้ระพื้นเลย
หรือถ้าบ้านหลังไหนที่ต้องการแต่งให้น่าอยู่แบบดูแล้วสบายๆ
อย่างน้อยผ้านี่ก็ควรจะยาวมาแถวๆระดับพื้นในกรณีของม่านประตู
หรือถ้าม่านหน้าต่างอย่างน้อยก็ต้องยาวมากกว่าหน้าต่างพอจะคลุมได้หมดเวลาปิด ถ้าผ้าม่านสั้นหรือกว้างน้อยเกินไปนี่มันจะทำให้ดูเด๋อๆขัดๆตาน่ะครับ หรือถ้าเพื่อนๆคนไหนเลือกผ้ามาตัดม่านเอง
แบบนี้เขาแนะนำว่าซื้อผ้าให้ยาวไว้หน่อยไว้ก่อนดีกว่าครับ
แล้วค่อยมาตัดเอาทีหลังก็ได้
 |
| ใช้ผ้าม่านทีมีเนื้อผ้าเหมาะสมกับการใช้งานของห้อง |
3. เลือกเนื้อผ้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเพื่อนต้องการให้ผ้าม่านนี่ช่วยควบคุมเรื่องอุณหภูมิและแสงในห้องนั้นๆครับ
ม่านนี่จะช่วยได้เยอะและ อย่างม่านที่ทำจากผ้าฝ้าย
โปร่งๆแบบนี้ก็จะเหมาะกับห้องไหนก็ตามที่เพื่อนๆต้องการให้ลมผ่านเข้าออกได้สะดวกหน่อย
จะได้เย็นๆ รวมทั้งแสงก็จะผ่านเข้าออกได้ส่วนนึงด้วย ส่วนผ้าที่เนื้อหนาๆหน่อย
แบบนี้ก็จะเหมาะกับการใช้เป็นม่านสำหรับห้องนอนเพราะจะช่วยในการกันแสงเล็ดรอดเข้ามาได้ดี
แบบนี้แหละครับ
4. อย่าลืมอุปกรณ์ อุปกรณ์ประกอบม่านพวกราวอะไรแบบนี้ก็มีความสำคัญสำหรับการแต่งบ้านให้น่าอยู่ครับ
เลือกราวและอุปกรณ์ที่ดูเข้ากับม่านของเรามากที่สุด
อย่างถ้าห้องไหนใช้ม่านหนาๆหนักๆหรูหราอย่างม่านกำมะหยี่ก็ควรจะใช้ราวที่ดูหรู
มีการตกแต่งอะไรตามไปด้วย ไม่ใช่ราวแบบเรียบๆธรรมดาๆซึ่งจะเหมาะกับผ้าม่านที่โปร่งๆสบายๆมากกว่า
นอกจากนี้ทั้งม่านและราวรวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆก็ควรจะเข้ากับห้องนั้นๆได้ด้วย
อย่างสมมติว่าเราใช้ม่านและราวแบบเรียบๆ
แบบนี้ก็ต้องเหมาะกับห้องที่ตกแต่งสไตล์ง่ายๆดูเป็นกันเอง ไม่ใช่ห้องที่ตกแต่งให้เป็นทางการอย่างห้องประชุดหรืออะไรแบบนั้นน่ะครับ
 |
| อย่าลืมให้ความสำคัญกับอุปกรณ์และหัวของราวม่าน |
5. เลือกผ้า อันนี้ดูผ่านๆคล้ายๆข้อ 3. ข้างบน
แต่ในขณะที่ข้อข้างบนนั่นหมายถึงคุณสมบัติของเนื้อผ้าในการปิดกั้นแสงและลม
อันนี้หมายถึงอารมณ์และคุณสมบัติอื่นๆของผ้าน่ะครับ
อย่างผ้าฝ้ายนี่จะใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเลย แถมทำความสะอาดก็ง่าย
ส่วนผ้ากำมะหยี่จะดูหรูหรา เป็นส่วนตัวหน่อย
แล้วก็อาจจะทำให้ห้องดูหนักๆเป็นทางการสักนิด
ส่วนผ้าบางมากๆอย่างผ้าเปลือกกระเทียม อันนี้จะดูเบาและสง่า
แต่จะขาดความเป็นส่วนตัวไปถ้าเอามาใช้ทำม่าน
แบบนี้อาจจะเหมาะกับห้องที่ไม่ส่วนตัวมากอย่างห้องนั่งเล่นอะไรพวกนี้ หรือผ้าวูล (wool) อันนี้จะดูหนักอยู่
แต่เพราะความที่ดูหนักนี่ก็เลยทำให้เหมาะกับการใส่พวกลูกไม้ระบายตุ้งติ้งอะไรแขวนติดเข้าไปด้วย
6. อย่าลืมหัวของราวม่าน อันนี้ดูเป็นเรื่องเล็กมากนะ แต่สำคัญเหมือนกันถ้าเราคิดจะแต่งบ้านให้น่าอยู่จริงๆ หัวของราวม่านหลายๆแบบจะมีจุกอยู่ครับ ตามร้านขายบางทีเขาก็เรียกทับศัพท์ไปเลยว่า Finial ไอ้เจ้าจุกพวกนี้จะมีลวดลายและสไตล์ต่างๆกัน
เลือกหัวพวกนี้ให้เหมาะกับสไตล์การแต่งบ้านของเราด้วยนะครับ
============================================================================
