แต่งบ้านแบบประหยัดเงินด้วยการผสมเฟอร์นิเจอร์แบบอนุรักษ์และโมเดิร์น

เวลามีบ้านใหม่นี่ เพื่อนๆหลายคนก็มักจะอยากแต่งบ้านแบบประหยัดเงินหน่อย โดยการรับของมรดกตกทอดมาจากญาติๆ อย่างพวกเฟอร์นิเจอร์จากบ้านเก่า ซึ่งก็มักจะออกมาในแนวอนุรักษ์นิยมหน่อยล่ะครับ แต่ทีนี้บ้านสมัยใหม่ อย่างเวลาเราอยู่คอนโด เรือนหอ สมัยนี้เขามักจะนิยมสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น ดูแว่บแรกอาจจะดูขัดๆกัน แต่อันที่จริงการที่เราผสานการใช้เฟอร์นิเจอร์สองสไตล์ที่แตกต่างกันนี่ เท่ากับเรากำลังสร้างบุคลิกส่วนตัวและเพิ่มความมีมิติมากขึ้นกว่าเดิมให้กับห้องนั้นๆครับ 

ถ้าจะว่ากันไปตามตรงแล้วการผสานสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งสไตล์ต่างๆเข้าหากันนี่ก็เป็นเรื่องปกติของเกือบทุกบ้านอยู่แล้วนะ คือมักจะไม่ได้มีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไปเสียร้อยเปอร์เซ็นต์ของทั้งบ้านหรอกครับ ยกเว้นคนที่ชอบจริงๆ แต่ยังไงก็ตาม การแต่งบ้านแบบประหยัดๆเงินด้วยการผสานสไตล์ที่แตกต่างเข้าหากันนี่มันก็กลายเป็นเรื่องวุ่นและทำให้บ้านดูเละเทะสะเปะสะปะได้ง่ายๆเหมือนกันถ้าเราไม่มีหลักไม่มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนลงมือตกแต่งจริงๆ ดังนั้น เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า ผู้เชี่ยวชาญเขาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่ายังไง มีกว้างๆแค่สามข้อเท่านั้นเองที่เราควรตั้งคำถามหรือนึกถึงก่อนลงมือทำการตกแต่งโดยผสมผสานสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันแบบนี้เข้าหากันครับ

เลือกสไตล์ใดสไตล์หนึ่งมาใช้เป็นตัวหลักในการตกแต่ง

สไตล์ไหนดี?

จริงอยู่ครับว่าเรากำลังผสานสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันเพื่อใช้ในการตกแต่ง แต่มันก็ต้องมีสไตล์หลักที่เราจะวางให้เป็นตัวนำหรือสไตล์หลักในห้องนั้นๆด้วย อันนี้ก็ต้องตามแต่เพื่อนๆตัดสินใจเองครับ โดยพิจารณาดูจากความชอบส่วนตัว รวมไปถึงตัวแปรอื่นๆอย่างความสอดคล้องกับสไตล์ของตัวบ้านหรือรูปแบบการตกแต่งในห้องอื่นๆนอกเหนือจากห้องที่เราพิจารณา เรื่องของการปล่อยให้สไตล์การตกแต่งแบบใดแบบหนึ่งเป็นตัวเด่นนี่สำคัญมากเลยนะในการแต่งแบบผสมผสานหลายๆรูปแบบเข้าหากัน เพราะถ้าเราให้น้ำหนักเท่าๆกันหมดเลยทุกสไตล์ จะทำให้การตกแต่งในห้องนั้นๆดึงความสนใจเท่าๆกันหมดจนดูเหมือนตีกันเละเทะเลยครับ ดังนั้น ก่อนลงมือแต่งจริงๆ ลองคิดดูก่อนกว่าแบบไหนที่เราจะเลือกมาเป็นสไตล์หลัก ส่วนอีกสไตล์ที่จะผสมเข้าไปก็ให้วางเป็นตัวเน้น (Accent) เพื่อนๆอาจจะใช้การตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเป็นหลัก โดยให้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบางชิ้นเป็นแบบเก่าๆดูอนุรักษ์นิยม หรือให้ห้องตกแต่งในแบบอนุรักษ์แต่มีแทรกๆแซมๆด้วยของตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย แบบนี้ก็ได้เหมือนกันครับ

ใช้จุดที่เราชอบเป็นตัวเชื่อการตกแต่งแบบผสมผสาน

ทำไมเราถึงชอบ?

พอเพื่อนๆเลือกสไตล์ที่ต้องการให้เป็นสไตล์หลักได้แล้ว ทีนี้ลองนั่งนึกพิจารณาดูสิครับว่าทำไมเราถึงชอบสไตล์นั้นๆ อะไรเป็นตัวดึงดูดให้เราสนใจ อาจจะลองหยิบๆรูปเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์นั้นๆมาสักรูปแล้วนั่งมองๆนึกๆไปก็ได้ ดูสิว่าทำไมเราถึงชอบสไตล์นี้ เป็นที่รูปทรงเส้นสายหรือเปล่า หรือเป็นที่สีสันและเนื้อสัมผัสของวัสดุที่ใช้ ใช้เวลาค่อยๆดูค่อยๆนึกเลยครับ ลองสมมติว่าถ้าเราชอบใจเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ ถ้าสมมติเราต้องอธิบายเฟอร์นิเจอร์ตัวนี้แหละให้คนอื่นฟังโดยไม่เห็นภาพ อะไรที่เราจะหยับขึ้นมาพูดก่อน เส้นสายรูปทรง? หรือสี? หรือลักษณะที่ดูลื่นๆเป็นมันเป็นเงาถูกใจเราดี? ยิ่งหาเหตุผลได้ตรงเท่าไรก็จะเป็นประโยชน์ในการตกแต่งของเรามากเท่านั้น คำตอบไม่ได้มีตายตัวหรือถูกผิดนะครับ ขึ้นกับแต่ละบุคลไป ทีนี้พอเราหาคำตอบได้ว่าอะไรเป็นตัวดึงให้เราสนใจในสไตล์นั้นๆเป็นพิเศษ ก็เอาตรงนั้นแหละมาใช้เป็นจุดหลักสำหรับการแต่งแบบผสานสไตล์ต่างๆเข้าหากัน คือเน้นตรงจุดเราชอบนั่นแหละให้มากหน่อย

สไตล์การตกแต่งแบบกลมกลืนหรือขัดแย้งจะมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย

กลมกลืนหรือขัดแย้ง?

หลังจากตอบคำถามสองข้อแรกได้แล้ว คราวนี้ก็มาถึงคำถามข้อนี้แหละที่เป็นส่วนสำคัญส่วนสุดท้ายในการแต่งบ้านแบบประหยัดเงินของเรา คำว่ากลมกลืนหรือขัดแย้งที่ว่าไปตรงหัวนี่ หมายถึงพอผสมสองสไตล์เข้าหากันแล้ว เราอยากให้ออกมาดูเป็นแบบไหนนั่นแหละ ถ้าเราต้องการให้ห้องดูกลมกลืนกัน จะได้ดูสบายๆเหมาะกับการพักผ่อนหน่อย แบบนี้ก็ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดูคล้ายๆกันครับ อาจจะต่างกันที่สไตล์ แต่มีลักษณะหลายอย่างที่ดูเป็นจุดร่วมเหมือนกัน เช่น เพื่อนๆอาจจะชอบที่สีใดสีหนึ่ง งั้นก็หยิบเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งที่อาจจะมีสไตล์ต่างกันแต่สีอยู่ในโทนแบบที่เพื่อนๆชอบนี่แหละมาใช้ร่วมกัน หรือเลือกใช้เก้าอี้ที่ทำจากไม้ แต่รูปทรงเป็นสไตล์โมเดิร์น มาใช้ร่วมกับโต๊ะไม้ที่เป็นแบบอนุรักษ์นิยม แบบนี้เป็นต้นครับ

ทีนี้มาว่ากันถึงขัดแย้ง การแต่งห้องให้ดูขัดแย้งนี่ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะ ถ้าเราควบคุมระดับของความขัดแย้งไม่ให้มากเกินไปจนดูเละไปหมด ตรงกันข้ามคือวิธีแต่งห้องแบบขัดๆกันหน่อยนี่จะเหมาะเสียด้วยซ้ำกับห้องต้องการกิจกรรมเยอะๆคึกคักๆหน่อย ถ้าเพื่อนๆอยากให้ห้องดูขัดแย้งกัน ก็ทำตรงกันข้ามครับ เช่น หยิบเฟอร์นิเจอร์ที่สีขัดกัน อย่างแดงกับเขียวมาใช้ร่วมกัน หรืออาจจะหันไปเล่นที่พื้นผิวของวัสดุ รูปทรง อย่างตัวนึงเรียบๆ อีกตัวให้มีเส้นเว้าเส้นโค้งแพรวพราว แบบนี้ก็ได้ สำคัญว่าคุมหน่อย อย่าให้ขัดกันจนเละไปหมดแล้วกัน เพราะสไตล์ที่ต่างกันนี่ก็เรียกว่าเป็นความขัดแย้งอย่างนึงในตัวอยู่แล้วครับ

ใช้สไตล์ใดสไตล์หนึ่งเป็นตัวหลัก และเชื่อมสองสไตล์เข้าหากันด้วยลักษณะใดลักษณะหนึ่ง

ผสมสไตล์ที่แตกต่างเข้าหากัน

ถ้าเราตอบทำถามข้างบนได้หมดทั้งสามข้อ คราวนี้ก็เหลือเพียงแค่การเอาสไตล์ทั้งสองแบบนั้นมาผสมกันเพื่อใช้ในการแต่งบ้านแบบประหยัดเงินของเราครับ จะได้เหลือเงินไปทำอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่เอาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เสียหมด ลองแบบนี้่นะ

- ให้สไตล์ใดสไตล์หนึ่งเป็นตัวเด่น อีกสไตล์เป็นแค่ตัวเน้น

- ดึงความแตกต่างของสไตล์เข้าหากันด้วยสี พื้นผิววัสดุ หรือรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งที่เราใช้

- สร้างความน่าสนใจด้วยการตกแต่งที่สร้างความกลมกลืนหรือสร้างความขัดแย้งตามแต่สภาพแวดล้อมของห้องที่เราต้องการ

============================================================================
เพื่อนๆสามารถแวะไปเยี่ยมชมของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์น่ารักๆของเราได้ที่ http://welcomehome.lnwshop.com หรือแวะไปพูดคุยกันที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/WelcomeHomeCM นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ :)

============================================================================

ขอบคุณภาพสวยๆจาก http://www.hometone.com/, http://ths.gardenweb.com/, http://theinspiredroom.net/ และ http://www.homedit.com/ ครับ