เรื่องที่จะคุยกันวันนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของการแต่งบ้านโดยตรง
แต่เป็นเรื่องของการทําร้านกาแฟด้วยงบประมาณจำกัดครับ หลายคนฝันอยากมีร้านกาแฟ แล้วก็เปิดขึ้น
อย่างในเชียงใหม่นี่มีเยอะเลย เต็มไปหมด ทีนี้ปัญหาก็คือส่วนมากเลยที่เดียวที่ทําร้านกาแฟขึ้นมาโดยไม่มีแผนการอะไรเลยครับ
เอาความอยากของตัวเป็นตัวตั้ง ไม่ได้คิดถึงแง่มุมอื่นๆเช่น คู่แข่ง
ความต้องการของลูกค้า การหมุนเวียนของเงิน พอทำธุรกิจไปก็อาจเกิดปัญหา
บางครั้งผมก็เลยเห็นคนที่ตั้งคำถามตามเว็บบอร์ดว่าอยากเปิดร้านกาแฟ ควรจะเริ่มยังไงดี
หรือบางคนก็อยากมีร้านหรือมีซุ้มกาแฟเล็กๆ แต่ก็ถูกจำกัดด้วยงบประมาณการลงทุน
วันนี้ลองมาดูกันครับว่าในการทําร้านกาแฟเล็กๆสักร้าน
มีเรื่องอะไรบ้างที่เราน่าจะคิดก่อนลงมือ
ออกตัวก่อนว่าข้อแนะนำนี่ก็คือข้อแนะนำกว้างๆทั่วๆไปนะครับ หมายถึงว่าการตัดสินใจจะทำธุรกิจร้านกาแฟหรือไม่อยู่ที่ตัวเพื่อนๆเองเป็นคนวิเคราะห์เอง
ตัดสินใจเองและแบกรับความเสี่ยงเองตามธรรมชาติของการทำธุรกิจทุกอย่างแล้วล่ะ
แล้วคำแนะนำก็อาจจะไม่ได้เน้นไปที่เชิงของส่วนเทคนิคทางการบริหารธุรกิจอย่าง 4P 7P หรือการเขียนแผนธุรกิจกู้ยืมเงินการบริหารสินค้าคงคลังอะไร
เพราะเรื่องพวกนี้หาอ่านเองได้ไม่ยากตามตำราธุรกิจทั่วไป
รวมถึงไม่ได้เน้นถึงการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกาแฟและการชงกาแฟแบบต่างๆ
เพราะนั่นคือสิ่งที่ต้องมั่นใจว่าเราสามารถทุ่มเทให้ความสนใจได้ก่อนที่จะคิดเปิดร้านอยู่แล้ว
แต่จะออกไปทางข้อแนะนำในการทําร้านกาแฟที่เราๆมักหลงลืมกันไปเสียมากกว่านะ
 |
| การทําร้านกาแฟด้วยงบประมาณจำกัด 1 |
ก่อนอื่น นึกถึงลักษณะของร้านที่เราต้องการเปิดก่อนครับ
ลองนึกว่าร้านของเราจะออกมาในลักษณะเป็นสถานที่ให้กลุ่มเพื่อนกลุ่มคนมานั่งดื่มกาแฟกันนานๆปรึกษาพูดคุยกัน
หรือจะเป็นร้านกาแฟแบบที่คนมาดื่มกันตอนเช้าๆพร้อมอาหารเล็กๆน้อยๆอย่างแซนด์วิชก่อนเข้าทำงาน
จะเป็นร้านกาแฟสำหรับพวกผู้ชายที่ชอบบอลมานั่งดูบอลนั่งคุยกันหรือเปล่า
แบบนี้แหละครับ แล้วก็อย่าลืมถามตัวเองว่าธุรกิจร้านกาแฟของเรานี่เราจะวางโครงการยาวขนาดไหน
จะวางแผนให้เป็นร้านเปิดแบบผ่านไป 20 ปีก็ยังมีคนแวะมานั่งดื่มนึกถึงเดทครั้งแรกที่มาเดทกันที่ร้านเราหรือเปล่า
วิธีการคิดล่วงหน้าแบบนี้จะช่วยให้รู้กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าและลักษณะของร้านที่เราต้องการ
ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออะไรที่ไม่จำเป็นและไม่ตรงกับกลุ่มกับลักษณะที่เราตั้งเป้าหมายสำหรับทำธุรกิจครับ
 |
| การทําร้านกาแฟด้วยงบประมาณจำกัด 2 |
นึกถึงตัวเราในร้าน อันนี้เป็นข้อที่ผมคิดว่าในการทําร้านกาแฟแล้วเรามักจะลืมกันมากที่สุดเลย
ลองนึกถึงตัวเราว่าถ้าเราเป็นลูกค้า เราต้องการอะไรนั่นแหละครับ
เราต้องการอาหารหรือเครื่องดื่มแบบไหน
ต้องการบริการอะไรอย่างอื่นเสริมเป็นพิเศษหรือเปล่า การนึกล่วงหน้าแบบนี้ก่อนเปิดร้านจะช่วยให้เราลดต้นทุนสำหรับเครื่องจักร
รวมถึงมองเห็นภาพของประเภทเครื่องจักรอย่างเครื่องทํากาแฟที่มักจะเป็นค่าใช้จ่ายหลักได้มากขึ้น
จะได้ไม่ซื้อหรือลงทุนอะไรที่มากเกินความจำเป็นในการผลิตของเราครับ
นึกถึงขนาดของร้าน ลองนึกว่าต้องการร้านขนาดใหญ่แค่ไหน
ขนาดที่ว่าไม่ได้หมายถึงพื้นที่ของร้านนะครับ
แต่หมายถึงจำนวนลูกค้าที่เราสามารถรองรับได้
วิธีนี้จะช่วยให้เรามองเห็นลักษณะของการแต่งร้าน จำนวนที่นั่ง จำนวนโต๊ะ
เครื่องครัวที่ต้องใช้ตลอดจนขนาดพื้นที่ของร้าน ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนคิดว่าไม่สามารถรองรับลูกค้าเยอะๆได้
เริ่มจากการทําร้านกาแฟเล็กๆแต่ดูดีก่อนครับแทนที่จะเปิดร้านใหญ่ๆแต่ขาดคุณภาพ
ลูกค้าที่ดื่มกาแฟมักไม่ค่อยดูหรอกครับว่าร้านเราใหญ่แค่ไหน
เขาดูกันที่ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม การบริการที่ดี
ความอบอุ่นสบายใจภายในร้านเป็นหลักเสียมากกว่า
 |
| การทําร้านกาแฟด้วยงบประมาณจำกัด 3 |
ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ
อันนี้เป็นวิธีการง่ายๆในการเริ่มธุรกิจทุกอย่างแหละ
ถ้าเรารู้จักใครที่เก่งๆเรื่องการตลาด ลองถามไอเดียของเขาดูว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมสำหรับการทําร้านกาแฟของเราได้บ้าง
หลายๆไอเดียอาจจะใช้ได้ดีโดยไม่ต้องใช้เงินมากมายเลย
ถ้าเรามีเพื่อนที่เก่งเรื่องการออกแบบตกแต่ง ลองถามความคิดเห็นของเพื่อนให้เขาช่วยออกแบบไอเดียง่ายๆแบบประหยัดๆในการแต่งร้าน
อย่าลืมทำให้เขารู้สึกถึงอำนาจและอิสระในการคิดของเขาด้วยนะครับ
อย่าไปดึงดันเอาตัวเราเป็นหลักนั่นแหละ
 |
| การทําร้านกาแฟด้วยงบประมาณจำกัด 4 |
จงเป็นผู้นำ คิด จินตนาการและตัดสินใจ
อย่าใช้จ่ายเงินสิ้นเปลืองกับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือซื้อเพราะ “ใครๆก็มี/ใครๆเขาก็ทำ”
บางทีสิ่งที่คนอื่นมีก็ไม่ได้จำเป็นหรือไม่เหมาะกับธุรกิจของเรา คิดและวิเคราะห์บนความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ตัดสินใจโดยเอาหัวใจและสมองเราเป็นหลัก อย่าลืมว่าลูกค้าจะเลือกนั่งที่ไหนก็ได้ที่เขารู้สึกสบายกายและสบายใจเหมือนอยู่ในบ้าน
ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นครับ
สร้างความซื่อสัตย์ (loyalty) ของลูกค้าต่อสินค้าของเรา
สินค้าในกรณีนี้อย่ามองที่ตัวกาแฟอย่างเดียว แต่ให้มองกว้างๆไปที่บรรยากาศ
การให้บริการ พวกนี้ด้วยนะครับ การสร้างความซื่อสัตย์ต่อสินค้านี่แต่ก่อนทำได้ยาก
ใช้เงินและเวลาเยอะ แต่เดี๋ยวนี้เราสามารถใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้ครับ อย่างการใช้
QR code การใช้ Social network
ต่างๆเข้าช่วยเพื่อให้ลูกค้ากลับมาหาเราอีกครั้ง หรืออีกหลายๆครั้งครับ
============================================================================
